Hilton Bali Resort
เราคงพอเรียกทริปนี้ว่า BLEISURE คือ BUSINESS+LEISURE ได้ จากการผสมผสานภารกิจการงาน ธุรกิจ + ท่องเที่ยว + ชิมอาหาร เข้าด้วยกันให้เหมาะกับเวลาที่มี แม้ในส่วนของการท่องเที่ยวจะยังไม่ได้ตะลุยบาหลีอย่างจริงจัง แค่พอแตะๆ เพราะภาระทางหน้าที่การงานหนักหน่วง แต่ก็ได้ความประทับใจกลับมามากมาย
ข้อมูลการเดินทาง
วันที่เดินทาง : 27 พฤษภาคม 2560
สายการบิน : แอร์เอเชีย
ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ : 8,000 -10,000 บาท (โดยประมาณ)
ใช้เวลาเดินทางจากดอนเมือง ประมาณ 4 ชม. (เวลาที่อินโดนีเซียเร็วกว่าไทย 1 ชม.)
ที่พัก : Hilton Bali Resort @ Nuda Dua
ห้องพัก : KING EXECUTIVE TERRACE OCEAN VIEW (73 ตารางเมตร)
ราคาค่าห้องพัก : 8000++ บาท (รวมอาหารเช้าและ Club benefit)
อัตราแลกเปลี่ยน : 1 Baht = 450 IDR (โดยประมาณ)
ร้านอาหารในโรงแรม : Paon Bali ขายอาหารอินโดนีเซีย / The Shore Restaurant & Bar ขายอาหารฝรั่งและซีฟู้ดบาร์บีคิว / Shiki Restaurant ขายอาหารญี่ปุ่น
- ตัวอย่างอัตราราคาอาหารซีฟู้ดบุฟเฟต์ : 750,000 IDR = 16xx Baht (ใกล้เคียงกับราคามาตรฐานของโรงแรมระดับเดียวกันในประเทศไทย)
ช้อปปิ้ง : สินค้าหัตถกรรมและสินค้าแฟชั่นแบรนด์พื้นเมือง รวมถึงเครื่องประดับแฮนด์เมด สวยดี ราคาถูกมาก รวมถึงเสื้อผ้าที่ผลิตในประเทศอินโดนีเซีย ควรซื้อ*** แต่ถ้าเป็นที่ Bali Collection จะแพงหน่อยเพราะเป็นที่เขาจัดไว้สำหรับขายนักท่องเที่ยว แต่ก็ยังจัดว่าราคาถูก เมื่อเทียบกับบ้านเรา เพราะค่าแรงเขาถูกกว่าบ้านเรา ถ้าจะซื้อให้ถูกสุดๆ ให้ไปในย่านที่คนท้องถิ่นเขาไปกัน

มุมมองจากระเบียงห้องพักของเรา
Hilton Bali Resort อยู่ในเมือง Nusa Dua โลเคชั่นเด็ดมาก เพราะตั้งอยู่บนหน้าผาสูง กินอาณาบริเวณต่อเนื่องยาวลงมาถึงริมชายหาด ได้รับวิวมหาสมุทรอินเดียแบบสุดลูกหูลูกตา ด้านล่างติดหาดทรายสีขาวเงียบสงบ ภายในรีสอร์ทเขียวขจีด้วยสวนสวยงาม และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง 4 สระซึ่งเชื่อมถึงกัน ใกล้ชิดธรรมชาติแต่ไม่ขาดการสื่อสาร เพราะมีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) ฟรี และจะไปไหนมาไหนก็แสนสะดวกเพราะโรงแรมเขามีบริการรถรับส่งตามเวลาไปศูนย์การค้า Bali Collections และช้อปปิ้งมอลล์ Bali Galleria ฟรี แต่ถ้ามาไม่กี่วัน แค่มีความสุขอยู่ในพื้นที่ของโรงแรม ก็แทบจะดูไม่ทั่วแล้ว เพราะโรงแรมเขาใหญ่โตจริงๆ

วิวจากเส้นทางเดิน ระหว่างห้องพักไปยังล้อบบี้

วิวจากหน้าประตูเข้าห้องพักของเรา

สำหรับคนที่พกงานมาทำ หรือต้องติดต่อกับออฟฟิศที่ต่างประเทศ เขามีมุมทำงานในห้องแสนสบาย ฟรีไวไฟ ปลี๊กเพียบ ทำงานไปชมวิวมหาสมุทรไป สบายใจดี
ห้องพักของเราเป็นแบบ KING EXECUTIVE TERRACE OCEAN VIEW ห้องนี้ใหญ่ถึง 73 ตารางเมตร ราคาคืนละประมาณ 8,000 บาท (อาจจะถูกหรือแพงกว่านี้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่จอง และจำนวนวันที่เข้าพัก) สูงจากระดับน้ำทะเลขึ้นมาเท่ากับตึกเจ็ดชั้น แบ่งเป็นห้องนอนกับห้องนั่งเล่น กั้นด้วยผนังกระจกใส และทั้งสองห้องก็มีระเบียงชมวิวมหาสมุทรกว้างไกลสุดสายตา ถ้าเปิดประตูระเบียงไว้ก็จะได้ยินเสียงลมเสียงคลื่น ฟังแล้วเพลินดี แถมยังมีมุมนั่งทำงานและทานอาหาร มีปลั๊กไฟพร้อมฟรีไวไฟสำหรับคนที่อยากจะเอาคอมมาเปิดเขียนนั่นนี่ อัพภาพลงโซเชียลมีเดีย หรือพกงานมาทำ ห้องนี้นอกจากมีบริการรูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมงแล้ว ยังได้รับสิทธิ์ Club benefit คือไปดื่มและกินอาหารว่างในคลับเลาจน์ได้ตลอด
ในห้องมีโทรทัศน์จอแบน (แต่ไม่ค่อยได้เปิด) เพราะดูวิวเพลินกว่า มีเครื่องชงชาและกาแฟ มีแท่นวาง iPod และ เครื่องเล่นดีวีดี
ใครที่มาเป็นครอบครัวก็น่าจะชอบที่นี่ เพราะเขามี สโมสร Jungle Kids Club สำหรับเด็ก สามารถเอาลูกไปทิ้งไว้ได้ และใครที่ชอบประสบการณ์แปลกๆ เขาก็มีบริการท่องซาฟารีด้วยการขี่อูฐริมชายหาด และใครชอบออกกำลังกาย เขาก็มีฟิตเนส มีสนามเทนนิส แถมยังมีสปาเอาไว้นวดผ่อนคลาย และถ้าใครจะมาจัดงานแต่งที่นี่ เขาก็มีบริการรับจัดงานแต่งงานแบบมืออาชีพ แถมยังมีวิหารสำหรับจัดพิธีทางศาสนาเอาไว้เสร็จสรรพภายในโรงแรมนั่นเอง

ห้องพักแบบ KING EXECUTIVE TERRACE OCEAN VIEW สวยหรุอยู่สบาย วิวดี๊ดี

บรรยากาศสดใสหน้าโถงทางเข้ารีสอร์ท วันไหนแดดจัด ฟ้าใส ดอกไม้สวย น่าไปถ่ายรูปมากๆ

สระว่ายน้ำในส่วน Executive Lounge ที่คนซื้อ Club Benefit สามารถมานั่งชิลล์และได้รับบริการของว่างฟรี รวมถึงได้รับเสิร์ฟไวน์แชมเปญในช่วงเย็นๆ

วิวจากระเบียงห้องนั่งเล่นของเรา
อาหารการกิน – มีทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารอิตาเลียน และอาหารอินโด ร้านอาหารญี่ปุ่นของที่นี่ ค่อนข้างใหญ่และมีเมนูน่ากินเยอะ แถมยังมีไฮไลท์เป็นเทปันยากิด้วย ใครชอบอาหารญี่ปุ่นคงยิ้มกริ่ม เพราะเดิมเป็นเครือโรงแรมญี่ปุ่น คือ NIKKO
อาหารการกิน – อาหารอินโดนีเซีย เมนูพื้นถิ่น ทีร้าน Paon นอกจากอาหารอร่อย บรรยากาศดี๊ดี แล้วยังมีนาฏศิลป์พื้นถิ่นให้ชมด้วย
บาร์บีคิวซีฟู้ดก็มีให้ชิมกันจุใจที่ร้านอาหารริมหาด – ที่บาหลีนี้นอกจากจะมีงูจงอางมากมายจนจับมาลอกหนังทำกระเป๋าขายกันเป็นล่ำเป็นสัน ยังเป็นเมืองที่อุดมด้วยอาหารทะเล บุฟเฟ่ต์บาร์บีคิวของที่ฮิลตันราคาหัวละพันหน่อยๆเท่านั้น มีปูทะเลตัวเบิ้ม สดๆ ย่างใหม่ๆให้กินไม่อั้น ปูไซส์นี้บ้านเราขายโลละพันขึ้นไป
นอกจากอาหารญี่ปุ่นและอาหารพื้นถิ่นอินโดแล้ว ก็ยังมีอาหารอิตาเลียนด้วยนะจ๊ะ
คนที่มาพักที่นี่ ถ้าอยากออกไปเที่ยวข้างนอก ทางรีสอร์ทมีรถบริการฟรี แต่ถ้าใครอยากลุยเอง จะเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไปขับเที่ยวชมจุดต่างๆของเมืองก็ย่อมได้ หรือจะเรียก Grab Taxi ของในเมืองมารับ เขาก็จะพาเราไปเที่ยวนั่นนี่ ตามระยะเวลาเวลาที่ตกลงกัน ซึ่งไม่แพงเลย
#HiltonBali