เที่ยวเกาะสวรรค์ Pangkor Laut ที่ มาเลเซีย

เที่ยวเกาะสวรรค์ ปังกอร์ ลวต มาเลเซีย

One Island One Resort

พิกัด: https://goo.gl/maps/vRB8Ku6axhF2

ในกลุ่มประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ หากใครที่ได้ไปเยือนมาจนครบทุกแห่งแล้วก็มักจะลงความเห็นตรงกันว่า มาเลเซียเป็นประเทศที่มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับไทยของเรามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศบ้านเมือง สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ผู้คน อาหารการกิน วัฒนธรรม การไปเที่ยวมาเลเซียจึงเป็นเรื่องที่ง่ายๆ ไม่ต้องปรับตัวปรับใจอะไร ราคาสินค้าและบริการต่างๆก็คล้ายกับบ้านเรา อีกทั้งยังใกล้นิดเดียว เดินทางสะดวกทั้งทางรถ ทางอากาศ และทางเรือ แต่ส่วนใหญ่คนมาเลย์จะนิยมมาเที่ยวเมืองไทยมากกว่าที่คนไทยจะไปเที่ยวมาเลเซีย ทั้งที่ประเทศนี้ก็มีสิ่งสนใจหลายอย่าง และมีธรรมชาติสวยงามทั้งภูเขา ป่า และทะเล สามารถเดินทางไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องแพลนทริปกันยาวๆ เหมาะกับคนวัยทำงานที่มีเวลาเที่ยวน้อย ได้ไปเปิดหูเปิดตาคลายเครียด แถมยังได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษด้วย เพราะคนมาเลเซียเขาพูดภาษาอังกฤษกันเยอะ

ค่าเงินของมาเลเซีย 1 ริงกิตเท่ากับประมาณ 8 บาทไทย การแลกเงินสดมากๆไม่ค่อยจำเป็น เพราะสามารถใช้บัตรเครดิตและจ่ายออนไลน์ได้แทบทุกแห่งหน ยกเว้นว่าจะซื้อของกินตามข้างทางหรือจ่ายค่ารถที่ต้องใช้เงินย่อย ก็ต้องมีติดตัวไว้นิดหน่อย อย่างที่บอกว่า ค่าครองชีพเขาพอๆกับไทย ดังนั้น ถ้าเที่ยวในเมืองไทยใช้เงินสดเท่าไหร่ อยู่มาเลเซียก็ใช้ประมาณนั้น

 

เราเคยไปเที่ยวมาเลเซียกันมาแล้วหลายทริป แต่ละทริปก็ไปในทำเลที่ต่างๆกัน สำหรับทริปนี้ เป้าหมายของเราคือการไปเที่ยวเกาะแสนสวยที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ชื่อว่า Pangkor Laut (ซึ่งจริงๆออกเสียงว่า ปังกอร์ เล้าท์ แต่ในข้อมูลการท่องเที่ยวที่เป็นภาษาไทยจะเขียนว่า ปังกอร์ ลวต) เกาะแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพราะเขาควบคุมการใช้ทรัพยากรและดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด ทำให้ลักษณะทางธรรมชาติยังคงดีเยี่ยม เป็นที่อยู่ของนกเงือก ค้างคาวแม่ไก่ ลิงแสม นกอินทรีท้องขาว และสัตว์ป่าหายากหลายชนิด ซึ่งใครที่อยากเห็นนกเงือกในป่าไม่ใช่ในกรงหรือในสวนสัตว์ มาที่นี่ไม่ผิดหวัง เพราะมีนกเงือกบินโฉบให้ดูทั้งวัน

การเดินทางมาที่ เกาะปังกอร์ ลวต นักท่องเที่ยวส่วนมากที่มาเที่ยวมาเลเซียจะนั่งเครื่องบินไปลงที่กัวลาลัมเปอร์ เที่ยวเล่นและพักนอนที่ KL ก่อนหนึ่งคืน แล้วจึงนั่งรถตู้ใช้เวลาสามชั่วโมงจาก KL มาที่รัฐเประ เพื่อขึ้นเรือไปเกาะที่ท่าเรือลูมุต โดยการมาพักที่ เกาะปังกอร์ ลวต นั้นจะต้องจองล่วงหน้ามาก่อน เพราะเป็นเกาะส่วนตัว มีรีสอร์ทอยู่เพียงแห่งเดียว และรับนักท่องเที่ยวในจำนวนจำกัด เมื่อจองเรียบร้อยแล้ว ทางรีสอร์ทจะจัดรถรับส่งและเรือข้ามฟากเป็นบริการรวมอยู่ในค่าที่พักเลย ก็สะดวกดี

รถตู้ออกจาก KL ตอน 9 โมงเช้า มาถึงท่าเรือลูมุตตอนเที่ยงเศษๆ เลาจน์ที่ท่าเรือจะต้อนรับเหมือนโรงแรมห้าดาว มีเครื่องดื่มบริการ และมีเจ้าหน้าที่เช็คอินรีสอร์ทอยู่ในเลาจน์ เรือของรีสอร์ทออกจากท่าตอนบ่ายโมงตรง แล่นฉิวไปในทะเลสีมรกต เห็นวิวบ้านเรือนมากมายที่เรียงรายกันบนเกาะปังกอร์ใหญ่ ก่อนจะไปเทียบท่าพบกับความสวยสงบเขียวขจีและเป็นส่วนตัวที่ ปังกอร์ ลวต

นั่งเรือจากแผ่นดินใหญ่ที่ท่าเรือลูมุต ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ก็ไปถึงปังกอร์ ลวต ซึ่งหากดูในแผนที่แล้วจะเห็นว่า ระยะทางจริงๆจากชายแดนภาคใต้ของไทยมาถึง รัฐเประ เทียบกับระยะจาก KL มาเประนั้นใกล้เคียงกันมาก คนที่อยู่แถวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะมาทางนี้จึงนิยมนั่งรถยนต์มา แต่ถ้าเป็นคนกรุงเทพฯ นั่งเครื่องจากสุวรรณภูมิใช้เวลาชั่วโมงเศษๆ มาลงสนามบินกัวลาลัมเปอร์แล้วต่อรถอีก 3 ชม. มาขึ้นเรือก็น่าจะสบายสุด อย่าลืมปรับนาฬิกาด้วย เพราะเวลามาเลเซียเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง

 

 

เกาะปังกอร์ ลวต เป็นเกาะส่วนตัวเล็กๆ ที่เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและมีที่พักสวยงามท่ามกลางธรรมชาติ อยู่ในหมู่เกาะปังกอร์ ใกล้ๆกับเกาะปังกอร์ (ใหญ่) ในมหาสมุทรอันดามัน ริมช่องแคบมะละกาโดยเกาะปังกอร์ใหญ่นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ รัฐเประ ที่อยู่ฝั่งทะเลทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศมาเลเซีย ปังกอร์(ใหญ่) มีชายหาดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และมีทั้งชุมชนชาวประมงดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ จึงมีลักษณะผสมผสานทั้งความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีรีสอร์ทอยู่มากมาย ผสานกับหมู่บ้านชาวประมงพื้นถิ่น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมในทะเลท่ามกลางแสงแดด สามารถเพลิดเพลินกับการดำน้ำลึก การดำน้ำตื้น ตกปลา เล่นกีฬาทางน้ำ ปาร์ตี้สังสรรค์ ฯลฯ อารมณ์คึกคักคล้ายๆสมุยหรือเกาะพงันบ้านเรา ใครที่ไม่ชอบเที่ยวแบบนั้น คือชอบที่เป็นธรรมชาติแท้ๆ สงบๆเงียบ สวยงาม คนไม่เยอะ จึงตรงมาที่ เกาะปังกอร์ ลวต (หรือปังกอร์เล็ก) เป็นหลัก

ความประทับใจแรกของทุกคนที่ได้มาถึงท่าเทียบเรือหน้าเกาะปังกอร์ ลวต ก็คือแถวของทีมต้อนรับที่มารอโบกมือทักทายแขกพร้อมรอยยิ้มต้อนรับ มีหมู่เรือนพื้นถิ่นที่มีเสาสูงปักลงในทะเลมีภูเขาเขียวขจีเป็นฉากหลังดูแล้วสวยจับใจซึ่งเรือนเหล่านี้ก็คือ SEA VILLA สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวิวทะเลแบบแนบชิด นอกเหนือจากวิลลาในทะเลแล้วก็ยังมีโซนป่าเขาลำเนาไพร ซึ่งภูเขาตรงกลางเกาะเป็นผืนป่าดงดิบโบราณอายุ 2 ล้านปีที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้เก่าแก่หายาก ไม้แต่ละต้นบนเกาะนี้ใหญ่โตขนาดหลายคนโอบ น่าจะถูกใจคนชอบป่า และเพื่อรักษาความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง ทั้งเกาะนี้ก็มีการควบคุมส่วนห้องพักและสิ่งก่อสร้างอย่างจำกัด ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะยังคงสภาพธรรมชาติเอาไว้มากที่สุด ชื่อเสียงเรื่องความงดงามของเกาะนี้โด่งดังไปทั่วโลก ในฐานะซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของ ลูชาโน ปาวารอตตี (Luciano Pavarotti) นักร้องโอเปร่าเสียงแทนเนอร์ชาวอิตาลีผู้ล่วงลับ ถึงขั้นยกย่องว่างดงามราวกับสรวงสวรรค์บนพื้นพิภพ

ใครที่ติดอุปกรณ์สื่อสาร แม้ว่าบนเกาะจะมีไวไฟบริการฟรีตลอดเวลา แต่แนะนำว่า ควรปิดโทรศัพท์เสียเลยจะเหมาะกว่า เพราะมีอะไรดีๆให้ทำมากกว่าเล่นมือถืออยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือรอบเกาะชมวิวพระอาทิตย์ตก ตกปลา  ปิคนิก เดินป่า ซึ่งไม่ใช่ป่าธรรมดาแต่เป็นป่าฝนเมืองร้อนโบราณอายุนับล้านปีที่เหลือเพียงไม่กี่แห่งในโลก เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น สกี คายัค เวคบอร์ด แล่นเรือใบ หรือถ้าเป็นแนวไม่ชอบออกแรง ก็ไปทำสปาริมทะเล ในโซนสปาวิลลา ถ้าใครตั้งใจมาพักผ่อนแบบเน้นการทำสปาเป็นหลัก บนเกาะเขาก็มีที่พักแยกเฉพาะเป็น สปาวิลลา ให้จับจอง เพื่อที่จะได้รับบริการดูแลบำบัดอย่างเต็มที่แยกไปจากโซนวิลลาติดทะเลและโซนวิลลาภูเขา

อาหารการกินของมาเลเซียกับไทยนั้นหลากหลายและอร่อยไม่แพ้กัน ถึงแม้บนเกาะปังกอร์ ลวต นี้จะเปิดรับให้คนมาเที่ยวแค่ครั้งละไม่กี่คน แต่เรื่องอาหารการกินกลับอุดมสมบูรณ์อย่างน่าทึ่ง มีร้านอาหารและบาร์อยู่ 5 ร้าน เปิดให้บริการตามวันและเวลาที่กำหนดไว้ วัตถุดิบอาหารจะเป็นของสดๆจากทะเลตามที่ชาวประมงจับได้ในแต่ละวัน มีทั้งปรุงเป็นอาหารเอเชียนและอาหารตะวันตก โดยจะมีเอกสารแจ้งนักท่องเที่ยวชัดเจนว่า วันไหนเวลาไหน ให้ไปกินอาหารหรือไปดื่มที่ร้านไหน เพราะแต่ละร้านก็จะมีวิวที่สวยต่างกันตามช่วงเวลา และยังเป็นกลไกการบริหารทรัพยากรประหยัดทั้งวัตถุดิบ พลังงาน แรงงาน และการกำจัดขยะ ที่มีประสิทธิภาพ เกาะนี้จึงมีนักวิชาการและนักออกแบบจากหลายประเทศมาดูงานเพื่อเป็นตัวอย่างการจัดการสิ่งแวดล้อม


ร้านอาหาร UNCLE LIM


ร้านอาหาร Fisherman’s Cove


คำแนะนำสำหรับคนที่อยากมาเที่ยวมาเลเซียโดยทั่วๆไปคงไม่มีอะไรมาก แต่ถ้าตั้งใจมาเที่ยว เกาะปังกอร์ ลวต เพื่อสัมผัสธรรมชาติและทำกิจกรรมต่างๆให้ครบถ้วน ก็ควรเตรียมสุขภาพร่างกายมาให้พร้อม เพราะกิจกรรมที่น่าสนใจบนเกาะนี้ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาทางน้ำหรือการเดินป่า ต้องออกแรงค่อนข้างเยอะ จึงต้องมีร่างกายที่พร้อมลุย

บริการล่องเรือรอบเกาะชมความงดงามยามพระอาทิตย์ตกดิน

เราท่องเที่ยวพักผ่อนที่เกาะปังกอร์ ลวต ใช้เวลาสองคืนสามวันอย่างสนุกเต็มอิ่ม และออกเดินทางกลับโดยนั่งเรือออกจากเกาะตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง และต่อรถตู้ไปถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์ตอนบ่ายสามโมง

หลังจากเช็คอินแล้วก็กินข้าวแกงสไตล์มาเลย์ในสนามบินที่ร้าน KOPI TIME ก่อนจะขึ้นเครื่องตอนห้าโมงเย็นและกลับถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพประมาณทุ่มเศษๆ ด้วยความรู้สึกประทับใจ ของฝากที่คนไทยนิยมซื้อจากมาเลเซียคือผ้าปาเต๊ะหรือผ้าโสร่งลวดลายสวยงาม แนะนำให้ซื้อกลับมาคนละสองสามผืน เพื่อเป็นความทรงจำถึงสีสันชีวิตอันสดใสที่ได้ไปเยือนบ้านเมืองน่ารักแห่งนี้ ที่เรามั่นใจว่าจะต้องกลับมาเยือนอีกในไม่ช้า