ท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ที่…มัณฑะเลย์

มัณฑะเลย์ฮิลล์
Weekend Trip in Mandalay
แม้จะต้องพกพาสปอร์ตติดตัวไปด้วย แต่การไปเที่ยวมัณฑะเลย์ในวันหยุดสัปดาห์ ด้วยการเดินทางสบายๆจากสุวรรณภูมิเพียงชั่วโมงเศษ คงไม่ได้ทำให้คุณเหนื่อย และไม่ต้องใช้จ่ายมากมาย นอกจากจะได้เปลี่ยนบรรยากาศ ยังช่วยให้คุณได้เอาเสื้อหนาวสวยๆที่หมกอยู่ในตู้มาใส่ถ่ายรูปเก๋ๆ ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์สูงกว่าเชียงใหม่ จึงทำให้อากาศตอนกลางคืนเย็นได้ใจ ในฤดูกาลที่บ้านเราเรียกว่าฤดูหนาว (ช่วงตุลาคมถึงกุมภาพันธ์) ซึ่งกรุงเทพฯ ยังร้อนเหงื่อตก

มุมมองจากโรงแรม
มัณฑะเลย์เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของพม่า อันดับหนึ่งคือย่างกุ้ง อันดับสองคือเนปยีดอ มัณฑะเลย์เป็นราชธานีสุดท้ายของพม่าที่ปกครองโดยระบอบกษัตริย์ เป็นจุดสิ้นสุดของราชวงศ์สุดท้ายของพม่า คือ ราชวงศ์อลองพญา ที่มีพระเจ้าแผ่นดินองค์สุดท้ายของพม่าคือพระเจ้าธีบอ ผู้เป็นพระสวามีของมเหสีผู้มีตำนานอันโด่งดัง คือ พระนางศุภยาลัต นั่นเอง เมืองนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอิรวดีซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของพม่า ในพื้นที่ย่านนี้เป็นที่ตั้งของวัดและเจดีย์มากมาย
สำหรับทริปสั้นๆ 3 คืน 4 วัน จุดหมายการท่องเที่ยวในมัณฑะเลย์ที่น่าสนใจ และไม่เหนื่อยหนักหรือเร่งรีบจนเกินไป ประกอบด้วย
- พระราชวังมัณฑะเลย์
- วัดชเวนันดอร์
- มัณฑะเลย์ฮิลล์ (มหาคีรีแห่งมัณฑะเลย์)
- วัดพระมหามุนี (เพื่อร่วมพิธีล้างหน้าพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพม่า เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต)
- สะพานไม้อูเบ็ง สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก นอกจากนั้นก็เป็นการเที่ยวชมเมือง กิน ดื่ม สัมผัสสีสันชีวิตประจำวันชาวมัณฑะเลย์ ทั้งแบบชาวบ้านติดดินและแบบเก๋ๆสไตล์คนเมืองรุ่นใหม่ในพม่า
การเดินทาง
การไปเที่ยวมัณฑะเลย์นั้นแสนง่ายดาย มีเที่ยวบินตรงจากสุวรรณภูมิมาถึงสนามบินมัณฑะเลย์ใช้เวลาเพียงประมาณชั่วโมงครึ่งเท่านั้น มี 2 เที่ยวบินขึ้นไปต่อวัน ทั้งบูติกแอร์ไลน์คือบางกอกแอร์ และสายการบินราคาประหยัดคือแอร์เอเชีย ราคาค่าตั๋วก็พอๆกับไปภูเก็ตหรือเชียงใหม่ ประมาณพันกว่าบาท เมื่อมาถึงสนามบินมัณฑะเลย์ก็เหมาแท็กซี่ ซึ่งก็คือรถมินิแวนแอร์เย็นฉ่ำ จากสนามบินไปส่งที่โรงแรมในตัวเมือง (โรงแรม ฮิลตัน มัณฑะเลย์) ระยะทางประมาณ 30 ไมล์ (50 กิโลเมตร) ค่าโดยสาร 15,000 จ๊าต (ประมาณ 350 บาท) คนขับสุภาพเรียบร้อย บริการดีเพราะเขาคุ้นชินกับการบริการแขกโรงแรมห้าดาว พูดภาษาอังกฤษได้ ช่วยแนะนำที่กินที่เที่ยวได้
ค่าใช้จ่าย
- เงินไทย 1 บาท แลกเงินจ๊าตพม่าได้ประมาณ 45 จ๊าต
- การแลกเงิน แนะนำให้แลกดอลลาร์ไปจากบ้านเรา ที่พม่ารับเงินดอลลาร์และเงินจ๊าต
- ข้อควรระวังคือ ธนบัตรดอลลาร์ที่ใช้ได้ในพม่านั้น ห้ามมีรอยพับเด็ดขาด ถ้ามีรอยพับหรือตำหนิใดๆร้านค้าเขาจะไม่รับเพราะกลัวเป็นแบงค์ดอลลาร์ปลอม
- ควรแลกแบงค์ย่อยติดตัวไว้ ถ้าเป็นแบงค์ใหญ่ทางร้านเขาไม่มีทอน ส่วนเงินจ๊าดนั้นก็แลกติดตัวไปจำนวนหนึ่ง ไม่ต้องพกไปเยอะ ค่อยเอาไปแลกที่พม่าก็ได้

ถนนหนทางในย่านธุรกิจของมัณฑะเลย์
ค่าครองชีพในพม่าต่ำกว่าบ้านเรา ถ้าเป็นอาหารการกินและของใช้ที่มาจากวัตถุดิบในประเทศ จะราคาถูกมาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นค่ากาแฟในภัตตาคารหรือค่าเฟ่ที่ดูดีหน่อย บ้านเราอาจจะขายแก้วละ 90-150 บาท แต่ที่มัณฑะเลย์ขายแก้วละ 30-50 บาท ยิ่งถ้าเป็นร้านบ้านๆข้างถนนยิ่งถูกเข้าไปใหญ่ ใครชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อนำเข้าจากต่างประเทศถ้ามาที่พม่าจะดีใจเหมือนถูกหวย เพราะราคาเพียง 1 ใน 3 ของบ้านเราเท่านั้น

ห้องพักที่โรงแรมฮิลตันมัณฑะเลย์ กว้างขวาง สะดวกสบาย วิวดี
- ส่วนค่าที่พัก ถ้าเป็นโรงแรมระดับ 4-5 ดาวที่เป็นเชนระดับโลกในทำเลใจกลางเมือง ราคาห้องระดับ Deluxeไปจนถึง Executive โดยเฉลี่ยก็ประมาณคืนละ 2,500-5,000 บาท (ถ้าเป็นห้อง Suite แบบมีห้องรับแขกและห้องนอนแยกกันขนาด 60-120 ตรม. ก็ประมาณ 10,000-25,000 บาท) ซึ่งก็เป็นอัตราที่ถูกกว่าโรงแรมระดับเดียวกันในบ้านเราประมาณครึ่งต่อครึ่ง
- ส่วนค่าเดินทาง นั้นถ้าพักในโรงแรมก็จะมีบริการเรียกรถแท็กซี่ให้ โดยสนนราคาขึ้นกับระยะทางและเวลา แต่มองโดยรวมแล้วก็ยังเป็นราคาสบายๆสำหรับคนไทย ถ้าเหมาแท็กซี่ (มินิแวน) ขับพาชมเมือง ชมวัด วัง โบราณสถาน รวมถึงพาไปร้านอาหาร ร้านกาแฟต่างๆ ครึ่งวันก็ประมาณ 25,000 จ๊าต คิดเป็นเงินไทยประมาณ 600 กว่าบาท (เหมาทั้งวันก็เริ่มต้นประมาณ 50,000 จ๊าต)
สรุปค่าใช้จ่ายถ้าจะไปเที่ยววันหยุด 4 วัน 3คืน คือไปวันศุกร์กลับวันจันทร์ ในคุณภาพระดับ 4-5 ดาว
- ค่าเครื่องบินไป-กลับ ประมาณ 3,000 บาท
- ค่ารถไปกลับสนามบิน ประมาณ 700 บาท
- ค่ากินดื่ม 10 มื้อ ประมาณ 2,000 บาท (อาจถูกกว่านี้เพราะกินมื้อเช้าฟรีในโรงแรม)
- ค่าที่พัก 3 คืน ประมาณ 11,500 บาท (พักโรงแรมฮิลตันมัณฑะเลย์)
- ค่ารถพาเที่ยว 2 วัน ประมาณ 2,000 บาท
ถ้าไปคนเดียวก็จ่ายคนเดียว ประมาณ 19,200 บาท ถ้าไปสองคน ก็ประมาณคนละ 11,100 บาท
หมายเหตุ – ราคานี้อาจจะดูเหมือนแพง เนื่องจากเป็นราคาการท่องเที่ยวแบบเน้นความสะดวกสบาย กินนอนระดับห้าดาว และเป็นส่วนตัว ไม่ได้ไปแบบทัวร์ที่มีคนช่วยแชร์ค่าใช้จ่าย ซึ่งถ้าไปกับบริษัททัวร์ในจำนวนวันเท่าๆกัน ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณ 8,000 บาท

ระเบียงหน้าห้องยามเย็นชมวิวพระราชวังได้สวยๆ
ที่พัก
เนื่องจากเป็นทริปที่สะดวกสบาย เราเลือกพักโรงแรมฮิลตันมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นโรงแรมห้าดาวที่อยู่ในทำเลที่ดีสุดๆ คืออยู่ตรงข้ามพระราชวังมัณฑะเลย์ ถ้าเลือกห้องพักที่อยู่ในฝั่งหน้าพระราชวัง ก็จะได้ชมวิวพระราชวังแบบเต็มๆ อีกทั้งโรงแรมนี้อยู่ในจุดใจกลางเมือง สามารถเดินเล่นชมวิถีชีวิตในเมืองโดยรอบได้ และกลางคืนก็มีโซนไนท์ไลฟ์ให้ออกไปชมสีสันหรือไปนั่งดื่มได้ในระยะที่เดินถึง ราคาเริ่มต้นของห้องพักประเภทต่างๆ
Deluxe Room 3,084 Bht
King or Twin Executive Room With Balcony 4,533 Bht
King or Twin Executive Room Hill View With Terrace 5,140 Bht
King 1 Bedroom Executive Suite 7,196 Bht
King or Twin One Bedroom APartialment Suite 8,562 Bht
Twin One Bedroom APartialment Suite With Balcony 9,208 Bht
King One Bedroom Executive Suite With Terrace 9,545 Bht
King One Bedroom Ambassador Suite W/Terrace 25,362 Bht
ราคานี้เป็นอัตราคร่าวๆ จาก agoda ซึ่งอาจจะมีการปรับเปลี่ยน ตามช่วงเวลาสามารถเข้าไปดูละเอียดได้ที่
https://www.agoda.com/th-th/hilton-mandalay_2/hotel/mandalay-mm.html#nohash
http://www3.hilton.com/en/hotels/myanmar/hilton-mandalay-MDLAYHI/index.html

ศิลปะหุ่นสายของหม่า

ศิลปกรรมโบราณของพม่า
สัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต
ถ้าเป็นคนติดการสื่อสาร ชอบอัพโซเชียลตลอดเวลา พอไปถึงสนามบินมัณฑะเลย์ก็สามารถแวะซื้อซิมการ์ดพม่าที่มีทั้งเบอร์โทรและอินเตอร์เนตแพคเกจ โดยดูว่าจะอยู่ประมาณกี่วัน ก็ซื้อให้พอตามที่อยากใช้ ไม่ต้องคิดเยอะ ราคาก็ใกล้ๆกับบ้านเรา สำหรับทริปสุดสัปดาห์ซื้อแพคเกจในวงเงิน 150-300 บาทก็โอเคแล้ว ข้อดีอย่างหนึ่งคือสัญญาณเนตที่มัณฑะเลย์ค่อนข้างเร็ว และสัญญาณไวไฟในโรงแรมก็เร็วใช้ได้

ร้านน้ำชายามเช้า Shwe Pyi Moe Teahouse
อาหารการกิน
ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของพม่ามีพรมแดนติดกับอินเดีย บังกลาเทศ จีน ลาว และไทย มีทั้งลุ่มแม่น้ำสำคัญคือแม่น้ำอิรวดี และมีส่วนแนวชายฝั่งทะเลติดอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามันยาว 1,930 กิโลเมตร วัฒนธรรมของพม่าได้รับอิทธิพลทั้งจากมอญ จีน อินเดีย รวมถึงอิทธิพลด้านศาสนา ที่มีทั้ง พุทธ คริสต์ อิสลาม และหลายชาติพันธุ์ที่อยู่ร่วมกันได้แก่ พม่า ไทใหญ่ กะเหรี่ยง ยะไข่ จีน มอญ กะฉิ่น อินเดีย คะยา อาหารพม่าจึงเกิดจากการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย แถมยังเคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ จึงมีความเป็นตะวันตกอยู่ด้วย เวลาคนต่างชาติพูดถึงอาหารประจำชาติพม่าก็จะมีเด่นๆไม่กี่อย่าง เช่น โมฮีนกา ยำใบชา ข้าวแกง ทำนองเดียวกับที่คนต่างชาติพูดถึงอาหารประจำชาติไทยก็จะมีแค่ ต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่ ผัดไทย ทั้งที่ความจริงคนไทยไม่ได้กินของพวกนี้เป็นประจำ จนถึงขั้นกลายเป็นอาหารประจำชาติ นอกจากนี้คนพม่าต่างรัฐหรือต่างภูมิภาคก็กินอาหารคนละแบบกัน เหมือนคนไทยมีอาหารเหนือ อาหารใต้ อาหารภาคกลาง หรืออาหารที่แบ่งตามชนชั้น เช่น อาหารชาวบ้าน อาหารชาววัง
แนะนำว่า ถ้าไปมัณฑะเลย์แล้วอยากสัมผัสอาหารการกินแบบคนพม่าที่นี่เขากินกันจริงๆ ลองไปตามสูตรนี้…..

Shwe Pyi Moe Teahouse ใครอยากสัมผัสไลฟ์สไตบ์ยามเช้าของ “คนเมือง” ชาวมัณฑะเลย์ ต้องมาร้านนี้จ้า เมนูมีให้เลือกมากมาย ราคาเบาๆ
- มื้อเช้าให้ไปกินตามร้านน้ำชา ร้านน้ำชาเด็ดใกล้พระราชวังมัณฑะเลย์ในระยะเดินจากฮิลตันคือ Shwe Pyi Moe Teahouse เป็นร้านบ้านๆขนาดใหญ่อยู่ริมถนน ไม่มีแอร์ ที่คนท้องถิ่นเขามากินกันแน่นขนัด ราคาไม่แพง ขายอาหารเป็นชุด พร้อมเครื่องดื่มชากาแฟ (บรรยากาศคล้ายๆร้านอาหารเช้าเมืองตรัง)
- เราไปกินอาหารพม่า ในภัตตาคารใกล้โรงแรมที่มีลูกค้าแน่นขนัด ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

ร้านนี้ไม่ใช่ร้านอาหารพม่า แต่เป็นร้านพิซซาที่ บรรดานักชิมของที่นี่เขายกให้เป็นอันดับหนึ่ง ในเรื่องรสชาติและราคาที่แสนคุ้มค่า อาหารอร่อย และน้ำอะโวคาโดปั่น อร่อยแรงงงงง

มาเมืองมัณฑะเลย์ ต้องกินอะโวคาโดปั่นสดๆ อร่อยและถูกมาก มีประโยชน์ต่อสุขภาพ กินได้อิ่มเต็มที่ ไม่ต้องกลัวอ้วน
- มื้อบ่ายถ้าอยากไปนั่งดื่มชิลล์ๆ ในคาเฟ่สวมบทฮิปสเตอร์มัณฑะเลย์ สั่งอะโวคาโดปั่นเนื้อเนียนราคาเบามากินให้หนำใจ ชมวิวพระราชวังมัณฑะเลย์ไปด้วย ลองแวะไป Cafe City เครื่องดื่มเขาใช้ได้แต่อาหารฝรั่งที่ร้านนี้ไม่แนะนำ ถ้าอยากกินอาหารฝรั่งที่มัณฑะเลย์ ควรไปร้าน Central Park’s Pizza อันนี้อร่อยจริงและถูกมาก นักกินในท้องถิ่นเขารู้กันดี แม้จะไม่มีวิว แต่เมนูมีให้เลือกเยอะ พิซซาเขาเยี่ยมยอด แนะนำว่าสั่งพวกเครื่องดื่มจำพวกผลไม้ปั่นสดๆมาชิมจะอร่อยสะใจมาก อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมฮิลตัน นั่งแท็กซี่มาแค่ 3000 จ๊าต หรือ ประมาณเจ็ดสิบบาท

เมนูเด็ดที่ร้านอาหารของโรงแรมฮิลตัน ฝีมือเชฟโมกุล ข้าวแกงกุ้งแม่น้ำอิรวดี สะเต๊ะพม่า สปาเกตตี้สไตล์รัฐฉานผัดกับเนื้อกวางแดดเดียว และแซลมอนนึ่งซีอิ๊วสไตล์พม่าปนจีน
- มื้อค่ำถ้าจะดินเนอร์ในโรงแรมฮิลตัน อาหารที่นี่ก็ไม่ขี้เหร่ และไม่แพงด้วย เชฟใหญ่ของโรงแรมฮิลตันเป็นคนอินเดีย นอกจากจะเก่งทั้งอาหารพม่าและอาหารตะวันตกแล้ว ยังสอดประสานความอร่อยของอินเดียเข้าไปในหลายเมนู ฝีมือการทำแกงของเขาเด็ดขาดไม่เบา อย่าพลาดชิมแกงกุ้งซึ่งเป็นแกงกะทิข้นสีเหลืองๆไม่เผ็ดจัด กินกับข้าวสวย โดดเด่นด้วยรสชาติเต็มปากเต็มคำของกุ้งแม่น้ำอิรวดีตัวเขื่อง สปาเก็ตตี้เนื้อกวางแดดเดียวสไตล์รัฐฉาน ที่ห้ามลืมสั่งมาชิมคือ ยำใบชา อาหารพม่าพื้นถิ่นมีวัตถุดิบหลักเป็นกุ้งปลาน้ำจืดที่มีการถนอมอาหารด้วยวิธีคล้ายกะปิปลาร้าของบ้านเรา แต่สมดุลรสชาติจะต่างไปจากสมุนไพรและเครื่องเทศที่ใช้หมัก มีส่วนประกอบของผักและถั่วค่อนข้างมาก แกงของพม่าจะคล้ายอาหารอินเดีย กินกับข้าวสวยเม็ดยาวๆ หรือกินกับนาน ที่เป็นแผ่นแป้งจี่คล้ายโรตี
- ไนท์ไลฟ์ เนื่องจากเราพักที่ฮิลตัน และบริเวณโดยรอบก็เป็นแหล่งไนท์ไลฟ์ของคนเมืองและนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ในระยะที่สามารถเดินเล่นรับลมเย็นๆยามค่ำคืนได้ (คือบางคืนเย็นกำลังสบายแต่บางคืนอาจถึงขั้นหนาว ต้องใส่แจ็คเก็ต มีผ้าพันคอกันเลยทีเดียว) แสงสีราตรีของมัณฑะเลย์นั้นยังละอ่อนมากเมื่อเทียบกับบ้านเรา เพราะพม่าเขาเพิ่งพ้นช่วงวิกฤตการสู้รบและปัญหาการเมือง โดยรวมพื้นที่มัณฑะเลย์จัดว่าเป็นเมืองที่เงียบสงบ ตกค่ำถนนหนทางก็มืดตึ๊ดตื๋อ คนเข้านอนกันเร็ว แต่ถ้าเดินเรื่อยๆไปในโซนท่องเที่ยว ก็จะมีร้านน้ำชา และร้านอาหารแนวบิสโตรที่เปิดค่ำๆอยู่หลายร้านหนึ่งในร้านที่เราประทับใจคือ Gny 27 ตั้งอยู่บนถนน 27 (ที่นี่เขาตั้งชื่อถนนเป็นเลข) มีคนท้องถิ่นนั่งกันเพียบ แต่ไม่เปิดเพลงนะ ขายทั้งชากาแฟและเหล้าเบียร์ สำหรับกาแฟมีเมนูให้เลือกมากมาย ราคาเฉลี่ยอยู่ระหว่างแก้วละ 50-100 บาท ไม่แพง คนที่นี่เขาชอบดื่มชากาแฟคุยกัน แต่คนชอบดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะคอเบียร์น่าจะชอบที่นี่มาก เพราะเบียร์ถูกอย่างแรง ราคาเบียร์ยี่ห้อต่างประเทศถูกกว่าบ้านเราถึง 1 ใน 3 เท่า บริการก็ดีเยี่ยม พนักงานสุภาพเรียบร้อย ถ้ามาถึงพม่าแล้ว แนะนำให้ลองชิมเบียร์เมียนมาร์จะได้รู้รสชาติ ขวดใหญ่ ราคา 3500 จ๊าต คือราว 80 กว่าบาท เบียร์พม่าดื่มงาย รสชาติเบาๆ ใสๆ ส่วนราคาเบียร์ยอดฮิตของสาวๆบ้านเรา Hoegaarden ขวดเล็ก 2500 จ๊าต คือราว 60 กว่าบาทเท่านั้น บ้านเราขาย 180 บาท พอเราสั่งเครื่องดื่ม ทางร้านเขาแถมถั่วคั่วให้จานนึง เป็นถั่วเม็ดเล็กๆ เหมือนที่เคยกินตอนเด็ก สมัยที่พืชผักยังไม่ถูกตัดต่อพันธุกรรมให้กลายเป็นถั่วเม็ดเป้งไร้ตำหนิอย่างทุกวันนี้
คนพม่าชอบเข้าวัดทำบุญ

สาวพม่าผิวสวย เอวบางร่างน้อย
แหล่งท่องเที่ยว
คนไทยและชาวต่างชาติที่มาเที่ยวมัณฑะเลย์จะมีเป้าหมายหลักคล้ายกันคือ ไหว้พระ ชมวัด ชมวัง เริ่มต้นกันที่ไฮไลท์ของทริปนี้ คือ พระราชวังมัณฑะเลย์ ซึ่งมีตำนานที่น่าสนใจและน่าสยดสยองในเวลาเดียวกัน อยู่ฝั่งตรงกันข้ามโรงแรมที่เราพักนี่เอง
คนที่สนใจประวัติศาสตร์คงพอทราบว่า สถาปัตยกรรมของวังนี้เป็นอาคารที่สร้างขึ้นใหม่บนพื้นที่วังเดิมซึ่งโดนระเบิดไม่เหลือซากตอนสงครามโลกครั้งที่2 พระราชวังมัณฑะเลย์เดิมเป็นพระราชวังไม้สักที่งามวิจิตร สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามินดง กษัตริย์พม่าที่มีพระปรีชาสามารถที่สุดพระองค์หนึ่ง ซึ่งทรงย้ายมาตั้งเมืองหลวงใหม่ของพม่าที่มัณฑะเลย์และสร้างพระราชวังไม้สักที่งดงามแห่งนี้ขึ้น ล้อมด้วยกำแพงยาวเหยียดและคูน้ำโดยรอบ พระเจ้ามินดงมีมเหสีหลายพระองค์ และมีพระโอรสธิดาแปดสิบกว่าพระองค์ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า การแย่งชิงอำนาจใต้บัลบังก์ของพระองค์นั้นจะดุเดือดเลือดพล่านเพียงใด หนึ่งในพระมเหสีผู้ทรงอิทธิพลของพระเจ้ามินดงก็คือ พระนางอเลนันดอ พระมารดาของ พระนางศุภยาลัต ราชินีองค์สุดท้ายของพม่าที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

ภาพซ้าย-พระเจ้ามินคง ภาพขวา-พระนางศุภยาลัตและพระเจ้าธีบอ
ตามประวัติศาสตร์ที่เจอในแหล่งข้อมูลสากล เล่าว่า พระนางอเลนันดอ ได้หนุนให้พระเจ้าธีบอโอรสองค์หนึ่งของพระเจ้ามินดงขึ้นเป็นกษัตริย์ และจัดแจงให้พระนางศุภยาลัต ธิดาของตนนั้นเสกสมรสกับพระเจ้าธีบอ ท่ามกลางการแก่งแย่งอำนาจของเหล่าราชวงศ์ที่มีกันหลายขั้ว โดยตำนานเล่าขานกันว่า พระนางศุภยาลัตนั้นถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้สังหารสมาชิกราชวงศ์จำนวนมาก เพื่อขจัดเสี้ยนหนามในการขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าธีบอ บางตำนานก็ว่า เป็นฝีมือของพระนางอเลนันดอผู้เป็นพระมารดา
ตำนานที่ดรามากว่านั้นคือ ในค่ำคืนของการสังหารหมู่ มีการประโคมเสียงมหรสพกึกก้องไปทั่วบริเวณวัง เพื่อกลบเสียงร้องโหยหวนของเหยื่อ และในเบื้องต้น ซากศพเหล่านั้นถูกนำมาฝังไว้ในเขตพระราชวัง แต่ด้วยจำนวนศพมหาศาล พอถึงเวลาขึ้นอืด ก็ทำให้หลุมที่ฝังไว้แทบระเบิดออกมา ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ต้องแอบขนออกมานอกเขตวัง ทำให้มีคนรู้และเป็นเหตุให้บัลลังก์ของพระเจ้าธีบอสั่นสะเทือน เพราะอังกฤษซึ่งจ้องจะเอาพม่าเป็นเมืองขึ้นในเวลานั้น ได้ถือเอาเหตุการณ์นี้ เป็นหนึ่งในจุดบอดเพื่อทำลายสถาบันกษัตริย์ของพม่าจนราบคาบ และยึดพม่าเป็นอาณานิคม
เมื่อพม่าตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ พระเจ้าธีบอ พระนางศุภยาลัต รวมถึงพระนางอเลนันดอ ได้ถูกเชิญออกนอกประเทศโดยให้ประทับในเมืองรัตนคีรี ทางใต้ของเมืองบอมเบย์ในบริติชราช ภายหลังพระนางอเลนันดอได้มีเรื่องวิวาทกับพระนางศุภยาลัตซึ่งเป็นพระธิดา ทางอังกฤษสงสาร จึงได้ส่งพระนางอเลนันดอมายังพม่า และใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองมะละแหม่งจนสิ้นพระชนม์ จุดที่ฝังศพราชนิกุลพม่ากว่า 500 ชีวิตนั้นก็อยู่ในเขตวัง ถ้าจะว่าไป…ก็คือไม่ใกล้ไม่ไกลจากจุดที่เรานอนอยู่นี่เองประวัติของพระราชวังแห่งนี้เป็นโศกนาฎกรรมที่สะเทือนขวัญและน่าสะเทือนใจในขณะเดียวกัน
ผู้คน
ประชาชนพม่ามีหลายชาติพันธุ์อยู่ร่วมกัน ทั้ง พม่า ไทใหญ่ กะเหรี่ยง ยะไข่ จีน มอญ กะฉิ่น อินเดีย คะยา และอื่นๆ โดยทั่วไปแล้วก็เป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีกับนักท่องเที่ยวดีพอสมควร ถึงจะไม่ได้ยิ้มเก่งเหมือนคนไทย แต่ก็ไม่ได้หน้าบึ้งหน้างอ การแต่งกายของคนพื้นถิ่นกับนักท่องเที่ยวหรือคนต่างถิ่นจะเห็นต่างกันชัดเจน คือ ถ้าเป็นคนพื้นถิ่น ผู้ชายจะนุ่งโสร่ง ไม่ว่าท่อนบนจะเฟี้ยวทันสมัยใส่แจ็คเก็ตเท่ยังไง ก็สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์กับท่อนล่างที่เป็นโสร่งได้ทั้งนั้น ส่วนผู้หญิงจะแต่งตัวค่อนข้างมิดชิดเรียบร้อย นุ่งผ้าซิ่นยาวคลุมถึงตาตุ่ม ถ้าเป็นมุสลิมก็จะมีผ้าคลุมหน้า วัยรุ่นพม่านิยมประทินผิวด้วยทานาคาเหมือนกันทั้งชายหญิง ส่วนรองเท้านั้นทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะชอบใส่เหมือนกันคือเป็นรองเท้าแตะคีบ ดูแล้วโปร่งโล่งสบายเท้า เหมาะกับสภาพอากาศ และสะดวกกับการถอดเข้าไปในวัดวาอาราม เพราะคนพม่านั้นชอบเข้าวัดมากเหมือนคนไทยชอบไปเดินห้าง

ซื้อหยกหม่าเป็นของฝากลูกๆหลานๆ
ของฝาก
งานฝีมือแบบพม่าที่วางขายตามแหล่งท่องเที่ยวดูแล้วก็คล้ายๆกับตามภาคเหนือของไทย แต่ของที่น่าซื้อก็คือหยกพม่า ไม่ว่าจะเป็นในรูปเครื่องประดับหรือเครื่องรางของขลัง นอกจากนั้นงานหัตถกรรมจำพวกจักสานเช่นกระเป๋าสานหรือรองเท้าสานด้วยวัสดุธรรมชาติต่างๆก็น่าซื้อ ราคาถูกมาก จะเอามาเป็นของฝากหรือใช้เองก็ได้ และเนื่องจากพม่าเป็นดินแดนแห่งความเชื่อ ของฝากจำพวกวัตถุมงคลก็มีมาก น่าซื้อ เพราะพกพาสะดวก (ถ้าไม่ใช่พวกเทวรูปหรือพระพุทธรูปขนาดใหญ่) ราคาไม่แพงถูกใจผู้รับ และมีคุณค่าทางจิตใจ

เหรียญกษาปณ์เก่าของพม่า

รองเท้าแตะคีบ แฟชั่นยอดนิยมในพม่า ใส่สบาย ราคาไม่แพง
การได้เปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวชมดินแดนประวัติศาสตร์ของประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง น่าจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ให้แรงบันดาลใจดีๆ และมุมมองใหม่ๆ อีกทั้งอากาศที่เย็นสบายสดชื่นก็ทำให้สมองโล่งปลอดโปร่ง ด้วยวงเงินที่ไม่มากไปกว่าค่าใช้จ่ายในการฝ่ารถติดไปกินเที่ยวช้อปปิ้งเดินห้างอย่างที่คุ้นชิน แต่น่าจะได้อะไรมากมายกว่ากันเยอะ
ขออภัยที่รูปไม่ยอะ และรูปที่กินที่เที่ยวอาจไม่สวยไม่ชัดเท่าที่ควร เพราะเดินถ่ายแบบรีบๆ ด้วยกล้องมือถือ ไม่ได้จัดองค์ประกอบอะไร อาหารเขาเสิร์ฟมายังไง ก็ถ่ายมายังงั้น ส่วนภาพที่พักอาจจะดูเป๊ะๆเป็นทางการหน่อย เพราะเป็นภาพของโรงแรม HILTON บริษัท dp-studio ของสามี เป็น Official Photographer ให้เครือนี้ ก็เลยเป็นผลงานของเขาที่เราไปหยิบมาจากเว็บโรงแรมอีกที ข้อมูลจะได้ตรงว่า ห้องพักหน้าตาแบบไหนจ้ะ – – – โรงแรมไหนจะจ้าง dp-studio ไปถ่ายก็เรียกได้ 081-6582305 นอกจากถ่ายภาพนิ่งแล้วยังมี VDO production, Virtual Tour 360 และ Drone shots ด้วยจ้า