Yarnnakarn and Ago Café

ยานณกาล​ และ​ อะโกคาเฟ่

หลายคนคงนึกไม่ถึงว่า ท่ามกลางความคึกคักของย่านธุรกิจและการท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง ถนนนางลิ้นจี่ จะมีมุมสงบเล็กๆ ที่เพียงก้าวแรกที่เปิดประตูเข้ามา เวลาก็คล้ายจะเคลื่อนช้าลงกว่าภายนอก ด้วยบรรยากาศที่เหมือนดินแดนในจินตนาการ เปี่ยมมนตร์เสน่ห์ที่ให้ความรู้สึกเย็นใจอย่างประหลาด กับอารมณ์กึ่งจริงกึ่งฝัน แวดล้อมด้วยผลงานศิลปะเซรามิคหลากหลายเรื่องราวที่มากด้วยชีวิตชีวา ผสานความเป็นธรรมชาติและเหนือธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างผสมกลมกลืน

ชื่อ ยานณกาล คงคุ้นหูกันดีอยู่แล้วในหมู่คนรักของแต่งบ้านและงานศิลปะเซรามิค จากแรงกายแรงใจของคู่ชีวิตนักออกแบบ กรินทร์ พิศลยบุตร และ พชรพรรณ ตั้งมติธรรม ที่จับมือกันสร้าง แบรนด์ยานณกาล จากสตูดิโอในบ้านของพวกเขา และร้านเล็กๆในย่านอตก. ให้กลายเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับสากล

แม้จะไม่ได้มุ่งหวังความสำเร็จด้วยขนาดหรือมูลค่าเงิน แต่ด้วยธรรมชาติของธุรกิจที่จะต้องมีการพัฒนา ความหลากหลายของผลงานที่เพิ่มขึ้น และความปรารถนาที่จะดูแลทีมงานผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาให้ได้มีพื้นที่และโอกาสเติบโตร่วมกันไป ทั้งสองจึงตัดสินใจขยับขยายร้านสู่ทำเลใหม่ ซึ่งตอบโจทย์ความฝันได้อย่างลงตัว และเลือกที่จะชุบชีวิตตึกเก่า 3 ชั้น ให้กลายเป็นมากกว่าโชว์รูมร้านใหม่ แต่เป็นพื้นที่แห่งความสุข ความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจให้กับผู้มาเยือน โดยจับมือกับมิตรสหายในแวดวงดีไซน์มาเพิ่มความสมบูรณ์แบบด้วยคาเฟ่และร้านขายสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ภายใต้ชื่อ ยานณกาล​ และ​ อะโกคาเฟ่ (Yarnnakarn and Ago Café)

พื้นที่สุดเท่นี้บรรจุฟังก์ชั่นที่น่าประทับใจเอาไว้หลายรูปแบบ เริ่มจากชั้นล่างเป็น Yarnnakarn Art & Craft Studio ชั้นสองเป็น Creative Space สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นได้ทั้ง อาร์ตแกลเลอรี ห้องสัมมนา และพื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆ ส่วนชั้นสามเป็น Ago Café & Desiged and Selected Shop กับพื้นที่ Workshop เชื่อมกับระเบียงภายนอกเป็น Rooftop Bar สามารถจัดปาร์ตี้สวยๆขนาดเล็กได้สบาย

คุณนก กับ คุณกรินทร์ ต้อนรับเราอย่างอบอุ่นเช่นเคย เราเจอกันครั้งแรกเมื่อตอนไปเยี่ยมสตูดิโอยานณกาลเมื่อหลายปีก่อน

“การวางคอนเซ็ปต์ของร้านนี้ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราย้ายมาเปิดที่นี่คือ อยากให้คนที่เข้ามารู้สึกเหมือนหลุดออกมาจากโลกภายนอก สงบ ไม่วุ่นวาย จากภายในเราจะเห็นว่ามีช่องแสง ช่องหน้าต่าง ที่มองออกไปแล้วมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ได้เข้ามาอยู่กับตัวเองมากขึ้น มีการแบ่งพื้นที่ให้เป็นมุมย่อยๆหลากมุม มีช่องเล็กช่องน้อยที่มองออกไปแล้วเห็นในสิ่งที่แตกต่างกัน รูปแบบในการจัดวางสินค้าก็จะมีความเป็นกันเอง เหมือนเข้ามาบ้านเพื่อน ไม่ได้เหมือนการจัดวางขายในห้างหรือร้านทั่วไป

“ส่วนชั้นสองเป็นครีเอทีฟสเปซ มีจะคอนเทนต์ที่น่าสนใจเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ ในแนวที่เกี่ยวเนื่องกับความเป็นยานณกาล แต่ในขณะเดียวกันก็มีเอกลักษณ์ในตัวเอง มีพื้นที่ให้ศิลปินสาขาต่างๆมาแสดงงาน จัดเป็นแกลเลอรีได้ จัดกิจกรรมต่างๆได้ นิทรรศการแรกเป็นผลงานทีมงานยานณกาลทุกคน พิธีเปิดงานถือเป็นวันเปิดตัวครั้งแรกของร้าน ส่วนนิทรรศการที่สองเป็นของ พี่ป๊อด โมเดิร์นด็อก ซึ่งมีการทำ Collaboration ภาพวาดของเขากับงานศิลปะเซรามิคของเรา เกิดเป็นงานใหม่ที่น่าสนใจยิ่งขึ้น การที่พื้นที่แห่งนี้สามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมได้หลากหลาย ก็เป็นการสร้างผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ จากเดิมที่คนไทยอาจเคยเข้าใจว่า เมื่อพูดถึงงานฝีมือก็ต้องเป็นพวกของโอท็อป หรือผ้าไหม ผ้าทอ ฯลฯ เราก็ช่วยเปิดมุมมองให้เขาได้รู้ว่า งานเซรามิคก็ถือเป็นงานฝีมือ หรืองานคราฟต์ในอีกรูปแบบหนึ่งที่ผสมผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ได้ ส่วนลูกค้าที่ชอบงานของเราอยู่แล้วก็จะได้มีมุมมองเกี่ยวกับศิลปะใหม่ๆนอกเหนือไปจากงานเซรามิค ทำให้เขาเข้าใจแบรนด์เราในมิติที่กว้างและลึกยิ่งขึ้น

“ชั้นสามเป็นพื้นที่เวิร์คช็อป คาเฟ่และร้านขายสินค้าไลฟ์สไตล์ เริ่มจากแนวคิดเดิมที่ร้านเก่าเราเป็นร้านขายของดูน่ารัก คนที่เข้ามาดูชอบบรรยากาศร้าน เข้ามาแล้วสบายใจ เราก็เลยอยากทำอะไรที่มันต่อยอดสิ่งดีๆจากจุดนั้นให้เกิดขึ้น ด้วยการเปิดพื้นที่ให้คนที่เขาไม่ได้เป็นลูกค้าสามารถเข้ามาชื่นชมงานของเราได้ โดยเวิร์คช็อปจะลิงค์กับแกลเลอรี คือนอกจากเปิดให้คนมาชมแล้วยังมีประสบการณ์ลงมือทำงานคราฟต์ด้วยตัวเอง ทดลองได้ เล่นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นช่างฝีมือ ไม่ต้องมีประสบการณ์ไม่ต้องเรียนศิลปะมาก็ทำได้ เหมือนห้องทดลองที่มาเล่นสนุก กลับไปเป็นเหมือนตอนเด็ก ได้ปลดปล่อยความคิด ในยามว่างที่คนเครียดจากงาน เขาก็จะได้มาปลดปล่อยอารมณ์กับงานคราฟต์หรืองานศิลปะ โดยนอกจากเซรามิคแล้วเราก็ยังมีศิลปะแขนง เชิญผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆมาสอน มีคนเข้ามาเรียนได้หลายรุ่น ทั้งรุ่นคุณแม่ไปจนถึงรุ่นลูกๆหลานๆ ทำให้เกิดเป็น Community ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์คนได้ทุกช่วงวัย โดยแนวคิดของออกแบบจัดพื้นที่ส่วนนี้มาจากคำถามว่า ห้องทำงานในฝันของเราคืออะไร คำตอบก็คือ ห้องแอร์เย็นๆแต่เสพธรรมชาติใกล้ๆได้เต็มที่”

นอกจากงานคราฟต์สวยๆ บรรยากาศดี และกิจกรรมดีแล้ว อีกองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นคือ Ago Café & Designed and Selected Shop ของคุณอู๋  ภฤศธร สกุลไทย Design Director ของบริษัท PIA Interior เจ้าของรางวัล Designer of the Year 2019 และคุณพี รวมพร ถาวรอธิวาสน์ Founder and Managing Director ของบริษัท ติโตติโต จำกัด เพื่อนสนิทคุณกรินทร์ที่มีรสนิยมเดียวกัน ทำให้ทุกเมนูของร้าน ทั้งอาหารและเครื่องดื่มมีความเชื่อมโยงกับงานศิลปะของยานณกาลได้อย่างลงตัว ทั้งเรื่องราว และการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นอาหารอิตาเลียน อย่าง พาสตาหลากหลายเมนู พิซซ่า เตาฟืน ที่มีหน้าแบบต่างๆสร้างสรรค์มาให้เลือกชิมกันได้จุใจ ใครชอบของหวานก็มี เบเกอรี่สูตรโฮมเมด ให้อร่อยคู่กับกาแฟชั้นดี หรือจะคลายร้อนด้วยม็อคเทลชื่อเก๋ๆ เช่น ทลิทโท มหัทธโณ โจโร เทศาตรี ฯลฯ ที่ตั้งตามชื่อฤกษ์ในตำราโหราศาสตร์โบราณ นั่งชิลล์ในยามบ่ายเรื่อยไปจนถึงเย็น ก็แสนจะรื่นรมย์

ใครที่อยากมาสัมผัสความสุขในพื้นที่ศิลปะแห่งนี้ ไม่ว่าจะ ชม ช็อป ชิม ชิลล์ หรือ เวิร์คช็อป ตรงมาได้เลยที่ปากซอยนางลิ้นจี่ 4 มารถไฟฟ้าหรือแท็กซี่ก็สะดวกดี ร้านเปิดตั้งแต่ 11 โมง ทุกวันยกเว้นวันจันทร์

 

Yarnnakarn and Ago Café is one of the most attractive creative venues in Bangkok, located at Soi Nanglinchi 4 in Sathorn District. This is a place for art & craft lovers to fully enjoy their beautiful moment in an inspirational ambiance by browsing & shopping their favorite ceramic art pieces in the shop area on the 1st floor, viewing the art exhibition on the 2nd floor, interacting with art in the workshop on the 3rd floor and indulging themselves with delicious food and drink in the café with peaceful garden view.

https://www.facebook.com/yarnnakarn/

โทร. 089 4880566

แผนที่: https://goo.gl/maps/qDaYmE4VJiueggJ36