Butterfly – บทเพลงที่ซ่อนรหัสลับของผู้ป่วยใน “โลกซึมเศร้า”


Livin in the moment right now right now
Flying with no wings right now right now
I’m lovin who i am right now right now
I ain’t waiting for none right now right now
…มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
ฉันบินล่องลอยแม้ไร้ปีก
ฉันรักในสิ่งที่ฉันเป็น
ฉันไม่คิดหวังและรอคอยสิ่งใด…

ฟังเพลง BUTTERFLY >>  https://www.youtube.com/watch?v=T2zFe9hpuMs 

Butterfly – ผีเสื้อ เป็นเพลงของแรปเปอร์สาวไทย BADBITCHBKK ที่เขียนไรห์มเป็นภาษาอังกฤษล้วนด้วยภาษาระรื่นหู ฟังสบายๆ แต่แฝงความหมายเร้นลึก ชนิดที่หลายคนคิดไม่ถึง
.
แน่นอนว่า เพลงนี้ไม่ใช่เพลงฮิต และหากเทียบกับเพลงอื่นๆของวีร์ Badbitchbkk ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแรปเปอร์สาวพันธุ์ดุจากเวทีประกวด The Rapper 2021 ที่มักเน้นการเขียนไรห์มในลีลาเผ็ดร้อน เพลง Butterfly อาจจะเป็นเพลงที่ไม่ได้มีลูกเล่นทางภาษา หรือความท่วงทำนองที่หวือหวาอะไรมากมายนัก แต่ความหมายเบื้องหลังเนื้อเพลง ซึ่งเหมือนจะเป็นเพลงที่สดใส ให้กำลังใจคนที่กำลังท้อแท้ทั่วๆไป กลับแฝงไปด้วย ‘รหัสลับ’ ที่เกี่ยวกับวงจรชีวิต ความตาย และโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง ซึ่งอาจมีเพียงผู้ป่วยจิตเวชที่เคยเข้ารับการบำบัดในโรงพยาบาลเท่านั้น จึงจะตีความเข้าใจกันได้
.
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่าผีเสื้อแต่ละชนิดนั้นมีอายุขัยโดยเฉลี่ยแตกต่างกันไป ผีเสื้อส่วนใหญ่ที่เราเห็นๆกันนั้น มีอายุอยู่เพียงได้เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ ในขณะที่บางพันธุ์สามารถอยู่ได้ถึงหนึ่งปี ทว่า ระยะเจริญวัย หรือช่วงเวลาที่จะได้เป็น “ผีเสื้อ” ที่มีปีกโบยบินนั้น ก็จะไม่เกินสองหรือสามวัน แม้แต่พันธุ์ที่มีอายุยืนยาวที่สุด ก็จะมีช่วงชีวิตส่วนนี้ไม่เกินสองสัปดาห์ ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากเมื่อเทียบกับอายุขัยทั้งหมดของมัน โดยส่วนใหญ่ หลังจากฟักออกมาจากไข่แล้ว ระยะหนอนของผีเสื้อก็จะอยู่ที่ประมาณ 15 วัน ระหว่างนี้หนอนผีเสื้อก็จะลอกคราบ มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บางพันธุ์ก็จะมีสีสันหรือรูปร่างที่เปลี่ยนไปด้วย นี่คือช่วงชีวิตที่ยาวนานที่สุดของผีเสื้อ ก่อนจะกลายเป็นดักแด้ ซึ่งแม้ดูเหมือนจะขยับไม่ได้ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา ก่อนที่จะกลายเป็นผีเสื้อในที่สุด
.
มนุษย์เรามักคิดแทนสัตว์เอาว่า ช่วงเวลาที่ได้มีปีกสวยงามนั้น คือช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของผีเสื้อ เช่นเดียวกับเวลาคนเราชอบคิดแทนคนที่ทำอาชีพศิลปินต่างๆ ว่าการได้มีชื่อเสียงโด่งดังเปรี้ยงปร้าง การได้ประสบความสำเร็จในสายตาคนทั่วไป นั้นย่อมเป็นจุดที่มีความสุขที่สุดของคนเหล่านั้น ซึ่งแม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเวลาเหล่านี้จะมีความสำคัญในชีวิต แต่มุมที่ทุกคนอาจไม่ทันได้นึกก็คือ ตั้งแต่การสยายปีกออกมาจากดักแด้ การนับถอยหลังสู่ความตายก็เริ่มขึ้นแล้ว ไม่ต่างกับวินาทีของได้ลิ้มรสชาติของความมีชื่อเสียงและความสำเร็จ ที่จะตามมาด้วยความกังวลและหวาดผวา ถึงวันที่ช่วงเวลานั้นจะจบลง ในอีกมุมหนึ่ง
.
บางทีการได้เป็นหนอนอ้วนที่กินใบไม้ใบหญ้าไปวันๆ ได้เห็นพัฒนาการของตัวเองที่พัฒนาขึ้นในแต่ละช่วง โดยที่ไม่ต้องดั้นด้นบินหาอาหารไปมา หรือกดดันกับการหาคู่สืบพันธุ์ให้ได้ก่อนตาย อาจจะเป็นช่วงเวลาที่มีสุขสบายที่สุดในชีวิตของมันก็ได้
.
เช่นกัน ในจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นศิลปิน ที่ได้ตื่นเต้นยินดีกับพัฒนาการของตนเอง ทั้งด้านฝีมือ และการเติบโตของฐานแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจเป็นจุดที่มีความสุข และเต็มไปด้วยไฟในการทำงานที่สุดแล้วก็ได้
.
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ Butterfly พยายามจะสื่อก็คือ เราไม่มีทางรู้ได้ว่าช่วงเวลาที่ “ดีที่สุด” ของเรานั้นอยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง เพราะฉะนั้น เราจึงควรจะรู้สึกและให้คุณค่ากับทุกสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในทุกก้าวของการเดินทาง ก่อนจะถึงเป้าหมายใหญ่ ความสำเร็จที่เป็นหมุดหมายของจิตใจเรานั้น บนทางของเรายังมีเป้าหมายและความสำเร็จเล็กๆที่ไม่ควรมองข้ามมากมายเต็บไปหมด หากเราไม่เตือนตัวเองอยู่บ่อยๆถึงความภูมิใจเล็กๆน้อยๆที่เรามี เราก็จะได้มีความสุขแค่เพียงครู่เดียว ก่อนที่จะต้องมานั่งกังวล ว่าเมื่อไหร่สุขนั้นจะหายไป
.
ศิลปินจำนวนมากเป็นโรคซึมเศร้า – ความสำเร็จในวงการเพลงที่เราเห็นๆกันในปัจุบันนั้น ไม่ได้มาแบบขั้นบันได แต่มาแบบจรวดพุ่งทะยาน ศิลปินจึงไม่มีโอกาสได้มีความสุขกับแต่ละขั้น ที่ได้ค่อยๆไต่ขึ้นไปบนบันไดแห่งความสำเร็จ ในขณะที่อาชีพอื่นๆยังพอมีการขึ้นเงินเดือน เลื่อนตำแหน่ง หรือวันหยุดพิเศษให้ตั้งหน้าตั้งตารอ แต่สำหรับอาชีพศิลปินแล้ว หากไม่ได้อยู่ในค่ายใหญ่ๆ ไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง หากยังไม่ได้ไปเล่นคอนเสิร์ตงานใหญ่ๆ หากมองจากสายตาคนภายนอก ก็แทบจะไม่มีอะไรให้ตั้งตารอคอย พูดอีกอย่างก็คือ ไม่มีตรงกลางระหว่างความล้มเหลวและความสำเร็จเลย ทำให้เป็นอาชีพที่แม้ได้ทำในสิ่งที่ดูเหมือนจะสนุก แต่ก็ยากที่จะมีความสุข เพราะไม่มีอะไรให้ชื่นใจในระหว่างทาง อายุของความสำเร็จ เมื่อได้มาแล้วก็แสนสั้น เพราะคนก็พร้อมที่จะไปสนใจสิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา หากงานที่ทำชิ้นต่อไป ไม่ได้ผลตอบรับที่ดีเท่ากับงานชิ้นก่อนหน้า ก็จะเกิดความทุกข์ เสมือนว่าความสำเร็จใดๆที่เคยเป็นความสุข ได้กลายมาเป็นสิ่งที่คอยหลอกหลอน สิ่งต่างๆที่ทำหลังจากนั้น ก็เหมือนต้องมาแข่งขันกับงานเก่า ซ้ำร้าย หลังจากประสบความสำเร็จกับงานชิ้นหนึ่งแล้ว หากไม่สามารถสร้างผลงานที่โด่งดังเปรี้ยงออกมาได้อีกหลายๆชิ้น ก็จะถูกขนานนามอีกว่า one hit wonder

อีกแง่มุมที่ลึกไปกว่านั้น ซึ่งเพลงนี้ต้องการจะสื่อก็คือ “การอยู่กับปัจจุบัน” คำสำคัญ​ของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า​ ที่คนไม่เป็น​ ไม่มีวันเข้าใจ​ ว่าหากผู้ป่วยไม่สามารถดึงตัวเองออกมาอยู่กับปัจจุบัน​ได้​ นั่นอาจหมายถึงความเป็นความตาย
.
ในทางการแพทย์​​ การจัดการกับโรคซึมเศร้านั้นสามารถทำได้หลายทาง และบ่อยครั้งก็จะต้องใช้มากกว่าหนึ่งวิธี นอกจากการใช้ยาเพื่อความคุมสารเคมีในสมองให้ใกล้เคียงกับความเป็นปกติที่สุดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่แพทย์จะแนะนำก็คือการโฟกัส ให้ผู้ป่วย “อยู่กับปัจจุบัน” เพราะการมีความทุกข์ในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเลวร้ายนั้นเป็นการตอบสนองปกติต่อสิ่งเร้า เป็นเรื่องของคนทั่วไป แต่การมีความทุกข์เรื้อรัง ทุกข์ซ้ำทุกข์ซ้อน โดยที่ไม่ได้มีสาเหตุแน่ชัดนั้นเป็นความผิดปกติของสมอง วิธีเดียวที่ผู้ป่วยจะสะกิดตัวเอง เพื่อเบี่ยงเบนอารมณ์ออกมาจากความทุกข์อย่างแสนสาหัสได้ คือการบอกกับตัวเองว่า ความทุกข์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ทุกข์เพราะเราป่วย
.
โดยจิตแพทย์​หรือนักจิตวิทยาจะให้ผู้ป่วยพยายามพิจารณาว่า ตอนนี้ เราอยู่ที่ไหน ทำอะไร และจดจ่ออยู่กับสถานการณ์จริงตรงหน้า ซึ่งอาจไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นจริงๆในเวลานั้น (แต่ผู้ป่วยจะรู้สึกทุกข์หรือกลัวมากจนไม่อยากมีชีวิตอยู่) แทนที่จะลืมตัวหรือปล่อยตัวเองให้จมดิ่งไปในห้วงอารมณ์ที่เกิดจากความผิดปกติในสมอง
.
คนส่วนมากที่ฆ่าตัวตาย ไม่ได้ลงมือทันทีหลังเกิดเหตุที่ทำให้มีความทุกข์ แต่กลับตัดสินใจหลังจากนั้นเป็นเดือนๆปีๆ เมื่อความเจ็บปวดไม่ได้จางหายไปตามกาลเวลาอย่างที่ควรจะเป็น แต่ยิ่งกัดกร่อนจิตใจให้รู้สึกเลวร้ายลงเรื่อยๆ ซ้ำร้าย อาการของโรคซึมเศร้าเอง หลายครั้งก็จะส่งผลกระทบในทางที่ไม่ดีต่อความสัมพันธ์ หน้าที่การงาน และชีวิตในด้านอื่นๆ ซึ่งจะยิ่งทำให้ผู้ป่วยยิ่งมีเหตุให้ทุกข์มากขึ้น จากเดิมที่ยังไม่หายจนกลายมาเป็นโรค ซ้ำซ้อนไปเรื่อยๆ จนหมดหวัง
.
เนื้อร้องของเพลงที่บอกว่า Livin in the moment right now right now ซึ่งมาจากคำแนะนำจากจิตแพทย์ให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าพยายาม “อยู่กับปัจจุบัน” เพื่อช่วยเบี่ยงเบนอารมณ์ของผู้ป่วยออกมาจากความทุกข์​ หรือความหวาดกลัวภายใน และรับรู้กับโลกภายนอกให้ได้ เพื่อให้รอดพ้นจากการตัดสินใจทำในสิ่งที่น่าเศร้า ก่อนที่จะได้รับการบำบัดด้วยการใช้ยาหรือวิธีที่เข้มข้นอื่นๆนั้น​ หากใครไม่เคยเป็นโรคซึมเศร้าย่อมไม่มีวันเข้าใจว่า​ เป็นการดิ้นรนต่อสู้ที่ยากเย็นและโดดเดี่ยวอย่างถึงที่สุด​ ไม่ต่างจากการพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาจากห้วงเหวลึกเพื่อพบกับแสงสว่าง​ ที่หมายถึงปัจจุบัน​ในโลกแห่งความจริง
.
แต่ในทางกลับกัน​ หากผู้ป่วยสามารถดึงตัวเองให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันได้สำเร็จตามคำแนะนำของแพทย์ ก็อาจจะทำให้ความทุกข์ซึ่งเป็นเสมือนผีสางที่ตามหลอกหลอนเราแม้ในตอนกลางวันแสกๆ นั้นมีอำนาจเหนือจิตใจน้อยลง จนจางหายไปได้ในที่สุด
.
#โรคซึมเศร้า #Depession #Anxiety #Bipolar #Panic #BadBitchBkk #Butterfly #MonsterMomRecords


ผู้เขียน: วีร์ ศรีวราธนบูลย์ aka #BADBITCHBKK